รีวิว F1 เดอะ มูฟวี่ (2025)
ภาพยนตร์ F1 เดอะ มูฟวี่ (2025) ดูหนังออนไลน์ฟรี ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฝรั่งพากย์ไทย เล่าเรื่องราวของ ซันนี่ เฮย์ส (รับบทโดย แบรด พิตต์) อดีตนักแข่งรถฟอร์มูล่าวันที่หวนคืนวงการอีกครั้งเพื่อร่วมทีม APXGP ที่กำลังประสบปัญหา โดยเขาต้องร่วมงานกับ โจชัว เพียร์ซ (รับบทโดย แดมสัน ไอดริส) นักขับดาวรุ่งพุ่งแรง ทั้งสองต้องร่วมมือกันเพื่อพาให้ทีมกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งในสนามแข่งรถที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือด
นักแสดง:
- แบรด พิตต์ รับบทเป็น ซันนี่ เฮย์ส
- แดมสัน ไอดริส รับบทเป็น โจชัว เพียร์ซ
- เคอร์รี คอนดอน รับบทเป็น เคท ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของทีม APXGP
- ฮาเวียร์ บาร์เด็ม รับบทเป็น รูเบน เซร์บันเตส เจ้าของทีม APXGP
- นอกจากนี้ยังมีนักแข่ง F1 ตัวจริงมาร่วมแสดงรับเชิญอีกหลายคน เช่น ลูวิส แฮมิลตัน (ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย), มักซ์ แฟร์สตัปเปิน, ชาร์ล เลอแกลร์ และอีกมากมาย
เรื่องย่อ F1: The Movie
F1: The Movie กำกับโดย Joseph Kosinski (ผู้กำกับ Top Gun: Maverick) ถ่ายทอดเรื่องราวของ ซันนี่ เฮย์ส (Brad Pitt) อดีตนักขับสูตรหนึ่งผู้เป็นดาวรุ่งแห่งยุค ’90s ก่อนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในสนาม Spanish Grand Prix ที่เกือบจะสิ้นสุดเส้นทางชีวิตและอาชีพของเขา หลังจากนั้นซันนี่ใช้ชีวิตแบบเร่ร่อนขับรถแข่งขันรายการอื่นจนถึง Daytona 24 Hours ซึ่งกลายเป็นจุดกลับสู่การแข่งขันที่เขายังมีไฟกล้าลงแข่งต่อไป
ในขณะที่ซันนี่พยายามทำใจยอมรับชีวิตใหม่ เสื้อแข่งเคยสวมได้กลับแขวนไว้ แต่ชีวิตเขาก้าวไม่หยุด เมื่อ รูเบ็น เซอร์แวนเตส (Javier Bardem) เพื่อนร่วมทีมเก่าสมัย Lotus ผู้กลายมาเป็นเจ้าของทีม APXGP ทีมสูตรหนึ่งที่กำลังล่มจม ชวนซันนี่กลับมาเพื่อช่วยกอบกู้ชื่อเสียงและช่วยดึงทีมนำร่องขึ้นในสนามแข่งขันเดือนละหนึ่งครั้ง รูเบ็นให้ข้อเสนอชวนทึ่ง: ซันนี่มีเวลาแค่ 9 เรซสุดท้ายของฤดูกาล หากไม่คว้าชัยซักหนึ่งครั้งเขาจะถูกปลดทันที
ซันนี่กลับสู่โลก F1 พร้อมกับการพบ โจชัว เพียร์ซ (Damson Idris) นักขับดาวรุ่งสุดมั่นใจที่กลายเป็นคู่แข่งและน้องร่วมทีมในทีม APXGP แม้ทั้งคู่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว แต่ละคนต่างต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่ออนาคตของทีม เรื่องคือฉากแข่งที่ถ่ายทำสดจากสนามจริง เช่น Monza, Las Vegas, Abu Dhabi รวมถึงการแข่ง endurance ที่ Daytona ทำให้ภาพยนตร์ฉายความสมจริงขั้นสุด
เรื่องราวเข้าสู่บทสรุปเมื่อหน้าปัดนับถอยหลังเข้าสู่สนามสุดท้ายที่ Abu Dhabi แม้เพียร์ซจะโดดเด่น คนดูลุ้นในฉากชนกันระหว่างเขากับ Lewis Hamilton ผู้รับเชิญพิเศษของหนัง ในวินาทีสำคัญ ซันนี่เลือกใช้กลยุทธ์ “ช่วยเพื่อนก่อนตัวเอง” จนเกิดเหตุการณ์ชิงจังหวะเหนือขั้น และจบลงด้วยชัยชนะที่เขาไล่เก็บลูกสุดท้ายข้ามเส้นก่อนจะยกมือฉลอง
ความฝันที่เคยดูไกลกลับกลายเป็นความจริง ท้ายเรื่องเปิดทางไปสู่อนาคตของตัวละคร ซันนี่ตัดสินใจเลิกแข่ง F1 ในทางการและหันไปสู่การขับ off‑road หรือแข่งในสนามอื่นๆ พร้อมกับภาพลางๆ ของแผนสร้างภาคต่อและมีโยงถึงนักแสดงระดับ Tom Cruise ที่อาจเข้ามาร่วมโลกภาพยนตร์นี้
